เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สายเรือ ONE หรือ Ocean Network Express ได้รับมอบเรือขนส่งตู้สินค้าลำใหม่ ขนาดบรรทุก 14,000 ทีอียู (สามารถบรรทุกตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต ได้ จำนวน 14,000 ตู้) โดยได้มีการส่งมอบเรือลำใหม่นี้ ที่อู่ต่อเรือ Kure Shipyard ของบริษัท Japan Marine Corporation ซึ่งอู่ต่อเรือนี้ ยังเป็นอู่ต่อเรือที่บริษัท Nippon Yusen Kaisha หรือ NYK เช่าดำเนินการเป็นระยะยาว

เรือ ONE Grus เป็นเรือใหม่ลำแรกของ สายเรือ ONE ที่ได้รับมอบในปี 2019 นี้ และยังเป็นเรือขนาด 14,000 ทีอียู ลำที่ห้าของ สายเรือ ONE ที่ต่อขึ้นและทาสีมาเจนต้า ตามอัตลักษณ์ของ Ocean Network Express ต่อจากเรือ ONE Columba ซึ่งสายเรือฯ ได้รับมอบตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนของปี 2018 ที่ผ่านมา

เรือ ONE Grus ใหม่ ถือเป็นเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย ทั้งในด้านการนำเรือ และด้านความปลอดภัย รวมทั้งยังเป็นเรือที่มีลักษณะโดดเด่นด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เช่น ระบบตัวถึงและท้องเรือที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมสภาพของโครงสร้างเป็นพิเศษ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงและแข็งแรงตลอดทั้งลำ

ลักษณะการออกแบบท้องเรือ ยังเอื้อประโยชน์ต่อการขนถ่ายตู้สินค้าที่สะดวก นิ่งและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการลดพื้นที่ของห้องเครื่องยนต์ นอกจานนี้ยังมีการเพิ่มความปลอดภัยอีกระดับ ด้วยเทคโนโลยี Crack Arrest ซึ่งจะช่วยรองรับกรณีฉุกเฉินใดๆ ที่เกิดจากท้องเรือได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

สายเรือ one (ocean network express) อู่ต่อเรือ ญี่ปุ่น
เรือ ONE Grus ขณะอยู่ระหว่างต่อเรือขึ้นที่อู่ต่อเรือในประเทศญี่ปุ่น ภาพโดยทวิตเตอร์ @mkiipen

เรือลำใหม่นี้ ยังเป็นเรือลำแรกของโลกที่ติดตั้งเทคโนโลยี dual rating ที่เครื่องยนต์หลัก ซึ่งจะทำให้ปล่อยกำลังขับเคลื่อนออกมาได้สองระดับ นั่นคือ นั่นอัตราสูงกับอัตราต่ำ ทำให้สามารถเดินเรือได้ด้วยความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าสูงสุด ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อยมลภาวะสู่บรรยากาศน้อยลง

ที่ห้องบังคับเรือ หรือ navigation bridge ติดตั้งระบบ Integrated Navigation System หรือ INS ซึ่งรวบรวมการทำงานต่างๆ ของเรือไว้ ณ จุดเดียว ช่วยให้ลูกเรือสามารถปฏิบัติการต่างๆ เกี่ยวกับเรือได้อย่างสะดวกสบาย และลดความเหนื่อยล้าลงได้

อีกทั้ง กระจกหน้าต่างของเรือ ยังออกแบบให้มีความกว้างมากกว่าเรือทั่วไป ทำให้เจ้าหน้า ลูกเรือ สามารถเดินเรือ และบังคับเรือได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในขณะทำการเทียบท่า และออกจากท่า

สายเรือ ONE จะนำเรือ ONE Grus ให้บริการในเส้นทางระหว่าง เอเชีย กับยุโรป ภายใต้บริการ FE5 ของกลุ่ม THE Alliance โดยเรือลำนี้จะเข้าที่ ท่าเรือแหลมฉบัง (Laem Chabang), Cai Mep, Singapore, Colombo, Rotterdam, Hamburg, Antwerp, Southampton, Jeddah, ก่อนวกกลับ Colombo, Singapore และ Laem Chabang ต่อไป

เรือลำใหม่นี้ มีขนาดความยาวตลอดลำ 364.15 เมตร มีระวางขับน้ำ 138,611 เดดเวทตัน มีความกว้าง 50.6 เมตร กินน้ำลึก 15.8 เมตร สามารถรองรับตู้สินค้าได้ทั้งสิ้น 14,052 ทีอียู และเป็นเรือธงสัญชาติญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่าเรือแหลมฉบัง โดยบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ได้ต้อนรับเรือขนส่งสินค้า ONE Columba ของ สายเรือ ONE ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเข้าเทียบท่าในประเทศไทย ซึ่งท่าเทียบเรือชุด D ของฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เป็นท่าเทียบเรือแห่งแรกในประเทศไทยที่มีศักยภาพรองรับเรือขนส่งสินค้าที่มีความยาวรวมเกิน 350 เมตร

นอกจากนี้ สายเรือ ONE ในประเทศไทย หรือ Ocean Network Express Thailand นับตั้งแต่เปิดดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2018 ก็สามารถทำสถิติขนส่งตู้สินค้าผ่านประเทศไทยถึง 1 ล้านทีอียู ภายในเก้าเดือนแรกเท่านั้น

สายเรือ ONE หรือ บริษัทโอเชี่ยนเน็ตเวิร์คเอ็กซ์เพรส (Ocean Network Express) เป็นผู้ประกอบการสายการเดินเรือที่เกิดจากการรวมตัวกันของสายการเดินเรือชั้นนำจากญี่ปุ่นสามรายได้แก่ สายการเดินเรือ NYK, “K” Line และ MOL โดยปัจจุบันเป็นสายการเดินเรือใหญ่อันดับ 6 ของโลก

ปัจจุบัน สายการเดินเรือ Ocean Network Express มีเรือขนส่งสินค้ารวมกว่า 200 ลำ รวมพื้นที่ระวางตู้สินค้าทั้งสิ้น กว่า 1.5 ล้านทีอียู

หลังจากที่ NYK, “K” Line และ MOL รวมตัวกันเป็นสายการเดินเรือ Ocean Network Express แล้ว ก็ได้เริ่มทำการแบรนดิ้งใหม่ โดยนำสีชมพูสด มาใช้เป็นสีเอกลักษณ์ขององค์กร และทาสีตู้สินค้า หรือตู้คอนเทนเนอร์ให้เป็นสีชมพูสดดังกล่าว สร้างความโดดเด่น และสร้างความสนใจให้กับผู้พบเห็น อีกทั้งเป็นการสร้างสีสันให้กับอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี

หลังจากสายการเดินเรือ ONE เปิดดำเนินการในประเทศไทยได้เพียงเก้าเดือน ก็สามารถทำการขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศไทยกับตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมกันถึงหนึ่งล้านทีอียู ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่รวดเร็วมาก เทียบกับสัดส่วนการขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศไทยทั้งหมดแปดล้านทีอียูตลอดทั้งปี 2017 ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ เมื่อไม่นานมานี้ สาย ONE ยังได้นำเรือขนส่งตู้สินค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเข้าเทียบที่ท่าเรือแหลมฉบัง เข้ามารับส่งตู้สินค้าด้วยในประเทศไทยด้วย โดยเป็นเรือขนาดใหญ่ที่ 14,000 ทีอียู และเข้าเทียบที่ท่าเทียบเรือ D ของบริษัท Hutchison Ports Thailand

Mr. Kiyoshi Tokonami กรรมการผู้จัดการของบริษัท Ocean Network Express (Thailand) กล่าวว่า “การที่ สายเรือ ONE นำเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยนำเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง แสดงให้เห็นถึงการได้รับการยอมรับ และการร่วมมือกับลูกค้าเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการเริ่งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้โครงการ Eastern Economic Corridor หรือ EEC”


คลิกเพื่อแอดไลน์ของ AEC Logistics เพื่อรับเฉพาะข่าวสารสำคัญและโปรโมชั่น