ไทคอน ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เร่งเครื่องขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ ลงนามสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตร (Strategic Partner) ‘สหไทย เทอร์มินอล’ ผู้นำการให้บริการท่าเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจรของประเทศไทย จัดตั้งบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park)

เพื่อลงทุน พัฒนา และบริหารโครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร รองรับความต้องการของลูกค้าทั้งสองพันธมิตร อันได้แก่ ผู้ประกอบการในกลุ่มอี-คอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ และผู้ประกอบการขนส่งสินค้า (Shipping) ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดสอดรับเทรนด์ธุรกิจยุคดิจิทัล มั่นใจช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขัน ผลักดันให้การร่วมมือกันในครั้งนี้ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

คุณโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เผยว่า “ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (E-commerce) และธุรกิจขนส่งต่างๆ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่จัดเก็บ และกระจายสินค้าในบริเวณใกล้เมืองเพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจคลังสินค้าที่สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจ จึงได้ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาและบริหารศูนย์โลจิสติกส์พาร์คแห่งล่าสุด ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนการลงทุน 75-25 เพื่อจัดตั้ง บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) เดินหน้าต่อยอดธุรกิจพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันพร้อมส่งมอบบริการแบบครบวงจร”

“ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ของธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเพราะเป็นการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากสองธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยบริษัทฯ ซึ่งจะรับผิดชอบในการพัฒนาโลจิสติกส์พาร์ค คลังสินค้าคุณภาพสูง และการบริหารจัดการที่ทันสมัย ประสานกับความแข็งแกร่งของสหไทย เทอร์มินอล ผู้นำการให้บริการท่าเรือ และโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพื่อร่วมกันพัฒนาโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่เชิงกลยุทธ์แห่งใหม่บริเวณขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้าได้รวมกว่า 40,000 ตารางเมตร โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการพัฒนาพื้นที่ภายในไตรมาสที่สามของปี 2562 นับเป็นการต่อยอดธุรกิจของทั้งสองพันธมิตรเพื่อนำเสนอโซลูชั่น และบริการที่ครบวงจรเพิ่มเติมให้กับลูกค้าของทั้งสองบริษัทได้มากที่สุด บริษัทฯ มั่นใจว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ” คุณโสภณ กล่าวเพิ่มเติม

คุณ เสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ สหไทย เทอร์มินอล กล่าวว่า “ปัจจุบัน บริษัท สหไทย เทอร์มินอล มีพื้นที่ให้บริการรวมกว่า 315,200 ตารางเมตร ประกอบด้วยท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ พื้นที่ซ่อมบำรุงตู้คอนเทนเนอร์ สำนักงานศุลกากรภายในพื้นที่ท่าเรือ และมีเครื่องมือประจำท่าเรือสำหรับยกขนสินค้าทุกรูปแบบพร้อมนำเสนอบริการที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้าด้วยระบบโซลูชั่นที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล และมีนโยบายในการต่อยอดธุรกิจเพื่อมอบบริการที่ครอบคลุมและครบวงจรอยู่เสมอ ซึ่งการร่วมมือกับไทคอนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัท การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้จึงนับเป็นการขยายธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจที่เสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน และมอบบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นพัฒนา และต่อยอดธุรกิจเพื่อตอบความต้องการของลูกค้าในโลกอุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วยธุรกิจภายใต้การดำเนินงาน 3 กลุ่ม ได้แก่ “กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” ดำเนินธุรกิจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ปัจุบันมีพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้าภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านตารางเมตร บนทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โรงงาน และคลังสินค้าของกลุ่มบริษัท

TICON กับ สหไทย เทอร์มินอล เตรียมเปิดโลจิสติกส์พาร์คใหมมีทั้งแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) และสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) โดยมีบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด หรือ TPARK เป็นบริษัทในกลุ่มที่เริ่มดำเนินธุรกิจพัฒนา โลจิสติกส์พาร์ครายแรกในประเทศไทย ขณะเดียวกันไทคอนเริ่มขยายธุรกิจการพัฒนาอาคารอุตสาหกรรมในต่างประเทศ โดยในปี 2558 ไทคอนได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก “กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์” ซึ่งได้จับมือพันธมิตรระดับโลกอย่างเอสทีที จีดีซี บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ รุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย และ “กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น” ที่ผนึกพันธมิตรอย่างจัสท์โค ผู้ให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซอันดับหนึ่งจากประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มการให้บริการแก่ลูกค้าของไทคอนอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น