HUAWEI CLOUD ธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย เตรียมจัดงานโอเพ่นเฮ้าส์ รวม 5 วัน แสดงการใช้งาน Cloud + AI ในด้านต่างๆ อาทิ การกำกับดูแลเมือง, การจัดการด้านโลจิสติกส์, การบริหารจัดการแคมปัส, การบริหารงานค้าปลีก, การป้องกันและวิเคราะห์ด้านบริการสุขภาพ, การบริหารงานขนส่ง และชิพ AI Ascend
HUAWEI CLOUD ธุรกิจคลาวด์ของหัวเว่ย เตรียมจัดงานโอเพ่นเดย์ ภายใต้ชื่อ “Huawei Cloud AI Open Day Thailand 2019” ระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ชั้น 39 อาคารจี ทาวเวอร์ ถนนพระรามเก้า นำเสนอเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โดยภายในงาน ลูกค้า ผู้ให้บริการเครือข่าย พันธมิตร ตลอดจนนักศึกษา จะได้พบกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://varpevent.com/e/2019/huawei/cloud-ai-day/
“ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ของการจัดงาน ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับเทรนด์ใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์และ AI เรียนรู้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และทดลองใช้งานแอพพลิเคชั่นล้ำสมัยในภาคอุตสาหกรรม การจัดงานในครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมแบ่งปันความคิดเห็นกับบรรดาผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในวงการ ตลอดจนเปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ อีกด้วย” มร. โซเลอร์ ซุน รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
สำหรับเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลท์สำคัญภายในงาน ประกอบด้วยชิพ AI, บริการคลาวด์และโซลูชั่น AI แบบครบทุกระดับ (Full-stack AI) ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายด้าน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ของบริการคลาวด์ด้าน AI เช่น Optical Character Recognition (OCR) เป็นการรู้จำตัวอักขระด้วยแสงและภาพ, การค้นหาภาพ, การวิเคราะห์วิดีโออัจฉริยะ, แพลตฟอร์มพัฒนาระบบ AI ที่เรียกว่า ModelArts และ HiLens เป็นต้น สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การขนส่ง, การบริหารจัดการแคมปัส, เกม, รถยนต์อัจฉริยะ และการบริหารงานหน้าร้านค้าปลีก โดยมีตัวอย่างการใช้งานเทคโนโลยี ดังต่อไปนี้
– เมือง+AI: โซลูชั่น Traffic Intelligent Twins ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัด, การควบคุมดูแลรถยนต์อัจฉริยะ, การตรวจตราปัญหาความรุนแรง, การส่งเสริมความปลอดภัยด้านการขนส่งภายในเมืองและการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
– แคมปัส+AI: หุ่นยนต์จะทำหน้าที่ตรวจตราดูแลภายในบริเวณพื้นที่ขนาดใหญ่และประมวลผลเพื่ออนุญาตการเข้าพื้นที่ภายในเวลาเสี้ยววินาทีโดยใช้อัลกอริธึ่มระบบการจดจำที่แม่นยำ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุงการแสดงผลโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ด้วยระบบจดจำใบหน้า และการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในด้านการตลาดที่ดีขึ้น
– โลจิสติกส์+ AI: กล้องที่มี “สมอง” มีความสามารถมากกว่าแค่บันทึกภาพคนงาน แต่ยังสามารถรายงานและแสดงหลักฐานความรุนแรง รวมถึงบันทึกภาพความเสียหายที่เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทหรือปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้องในขั้นตอนการจัดส่งขนถ่ายสินค้าได้ด้วย
– การขนส่ง+AI: ระบบจดจำใบหน้าเป็นความสามารถพื้นฐานของ AI ในการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องภายในสนามบิน ด่านศุลกากร และร้านค้าปลีก ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้ทดลองสัมผัสขั้นตอนการขึ้นเครื่องทั้งหมดด้วยระบบการจดจำใบหน้า ตลอดจนไฟสัญญาณจราจรที่ควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์เพื่อลดปัญหาการจราจรแออัด
– งานค้าปลีก+AI: การจดจำลักษณะท่าทางของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี AI จะแสดงตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่มีทักษะความสามารถสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยผู้เข้าชมจะสามารถสั่งกาแฟได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องสั่งผ่านแคชเชียร์
– ชิพ AI Ascend: การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI ของหัวเว่ยนั้น ทำให้ได้นวัตกรรมชิพสองรุ่น คือ Ascend 910 และ Ascend 310 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับการประมวลผลแบบนิวรอลเน็ทเวิร์ค พร้อมชุดเครื่องมือการพัฒนา และการฝึกอบรมด้านคลาวด์
นอกจากนี้ ผู้ที่มาในงานยังจะได้รับชมและทดลองควบคุมหุ่นยนต์เล่นฟุตบอลด้วย HiLens ระบบกล้องอัจฉริยะ ตลอดจนการทำงานของเทคโนโลยี AI ในการรู้จำตัวอักขระไทยด้วยแสงและภาพ (Thai OCR) ที่อาจมีลักษณะจากการพิมพ์ไม่สมบูรณ์เช่นตัวอักษรไทยที่มีลายเส้นเอนเอียงหรือผิดรูปบนเอกสารที่มีพื้นหลังซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ
เทคโนโลยี AI ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่อยู่โดยลำพัง แต่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่จะช่วยยกระดับผลิตภาพของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเทคโนโลยี AI จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม ทุกองค์กร และทุกสาขาอาชีพโดยการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นทวีคูณ เราจำเป็นต้องคิดถึงหนทางใหม่ ๆ ในการเตรียมพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และในอนาคต AI จะพลิกโฉมโลกของเราตั้งแต่การแปลแบบเรียลไทม์ไปจนถึงการศึกษาเฉพาะรายบุคคล การดูแลป้องกันด้านสุขภาพไปจนถึงการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง ระบบการเดินทางขนส่งอัจฉริยะไปจนถึงการขับขี่ยานพาหนะแบบไร้คนขับ ตลอดจนการ